วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

Finite and Non-Finite verbs (กริยาแท้ และ กริยาไม่แท้)


Finite verb
      Finite verb...หรือ กริยาแท้ คือกริยาที่นำมาใช้เป็นส่วนสำคัญของประโยค เป็นคำกริยาที่บ่งบอกการกระทำของผู้กระทำ หรือประโยคนั้น ๆ

เช่น "Cat eat fish" เราจะเห็นกริยา eat ทำหน้าที่แสดงการกระทำของแมวกินปลาตรง ๆ เลยนั้นเอง กริยาแบบนี้เราจะเรียกว่าFinite verb ...


****************************

Non-Finte verb
      Non-Finte verb..หรือ กริยาไม่แท้ คือคำกริยาที่ไม่ได้นำมาใช้อย่างกริยาแท้ แต่ถูกนำมาใช้ทำหน้าที่เป็นอย่างอื่น เช่น เป็นนามบ้าง , เป็นคุณศัพท์บ้าง , เป็นกริยาวิเศษบ้าง

เช่น "I want to sleepจากประโยคเราจะเห็นคำกริยาอยู่ 2 คำ คือ want กับ sleep ซึ่ง want ตัวแรกนี้ทำหน้าที่แสดงความต้องการของ "I" ซึ่งเป็นประธานของประโยคนั้น  จึงเป็นกริยาแท้ ส่วน sleep นั้นเข้ามาเป็นส่วนที่ทำให้ประโยคสมบูรณ์เท่านั้น คำกริยาที่ไม่ได้แสดงการกระทำของประธานจริง ๆ เนี่ย เราเรียกกริยาพวกนี้ว่า Non-Finte verb หรือ กริยาไม่แท้ นั้นเอง...Non-Finte verb นั้นมีอยู่หลายประเภทใช้แตกต่างกันไป เช่น

  • Infinitive : กริยาที่มี To นำหน้า To + Verb 1 ) หรืออยู่ในรูปลอย ๆ เลย เช่น to know, cry
  • Gerund : กริยาที่เติม ing Verb + ing ) เช่น walking , sleeping , smoking 
  • Participle : กริยาที่เติม ed เป็นกริยาช่อง 3 หรือ ing
  • เช่น eating , coming , eaten , came , cleaned , spoken

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

การใช้ Infinitive ในภาษาอังกฤษ



Infinitive นี้คือคำกริยารูปปกติ (กริยาช่อง 1) ซึ่งในภาษาอังกฤษนี้เราสามารถแบ่ง infinitive ออกได้เป็นสองประเภทดังนี้  อ้างอิง
1. Infinitive with to – กริยาช่อง 1ที่นำหน้าด้วย to
2. Infinitive without to – กริยาช่อง 1ที่ไม่มี to นำหน้า
เราลองมาทำความเข้าใจว่า Infinitive แต่ละชนิดนั้นมีหลักการใช้อย่างไรนะครับ
Infinitive with to (กริยาช่อง 1 ที่นำหน้าด้วย to) มีหน้าที่ และวิธีใช้ดังนี้
1. เป็นคำนามทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค
To watch English movies is a good way to learn English.
(การดูหนังภาษาอังกฤษเป็นวิธีการที่ดีในการเรียนภาษาอังกฤษ)
2. เป็นกรรมของประโยค
Tony loves to play football with his friends.
(โทนี่ชอบเล่นฟุตบอลกับเพื่อนของเขา)
3. ทำหน้าที่เป็นคำขยาย ขยายคำนาน (Noun) หรือ คำคุณศัพท์ (Pronoun)
Mike has a lot of stuff to do today.
(ไมค์มีงานจำนวนมากที่จะทำวันนี้)
4. ทำหน้าที่เป็นคำขยายกริยา (adverb).
James comes to see his mom in Bangkok.
(เจมส์มาหาคุณแม่ของเขาที่กรุงเทพ)
หลักการใช้ Infinitive with to
1. คำกริยาต่อไปนี้ต้องตามด้วย Infinitive with to ในรูป Sub + Verb + infinitive with to
attemptfailoffer
affordforgetplan
agreehappenprepare
appearhesitatepretend
arrangehopepromise
carehurryprove
decideintendrail
deservelearnrefuse
determinemanageseem
threaten
ยกตัวอย่างเช่น
He agrees to work on this project.
(เขาได้ตกลงทำโปรเจคนี้)
2. หลังกริยาต่อไปนี้สามารถมีกรรมตามหลังได้ ขึ้นอยู่กับความหมายที่เราจะสื่อ ยกตัวอย่างเช่น
Subject + verb + object + infinitive with to
adviseallowcause
challengecommandencourage
forcegetinstruct
inviteleadorder
persuaderemindteach
tellurgewarn
ยกตัวอย่างเช่น
I invite her to attend my workshop next week.
(ฉันได้เชิญเธอมาร่วมงานเวิร์คช๊อปของฉันสัปดาห์หน้า)
3. รูปปฏิเสธของ infinitive ทำได้โดยการเติม not ข้างหน้า to ยกตัวอย่างเช่น
I hope not to spend too much time on this project.
(ฉันหวังว่าคงไม่ใช้เวลากับโปรเจคนี้มากนัก)
4. คำว่า ought, get used และ to be used ต้องตามด้วย Infinitive with to ยกตัวอย่างเช่น
You ought to eat healthy.
(คุณควรจะทานอาหารที่เป็รประโยชน์)
I get used to live in Bangkok.
(ฉันเคยชินกับการอาศัยอยู่ในกรุงเทพ)
She is used to work as a pilot.
(เธอเคยทำงานเป็นนักบินมาก่อน)
5. ใช้ verb to be + infinitive with to (be to + V1) เมื่อต้องการออกคำสั่ง ยกตัวอย่างเช่น
I am to work now.
ฉันต้องทำงานแล้ว
6. ใช้ have + infinitive with to (have to + V1) แสดงความหมายว่า ต้อง ยกตัวอย่างเช่น
Joe and Judy have to sleep early tonight.
(คืนนี้โจกับจูดีต้องเข้านอนแต่หัวค่ำ)
หลักการใช้ Infinitive without to
1. ใช้ตามหลัง Modal Verbs เช่น will, shall, would, should, can, could, may, might, must ยกเว้น be, have, ought, used ซึ่งกริยาตามหลังจะต้องเป็นกริยาช่องที่ 1 เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น
I will go to USA next month.
(ฉันจะไปสหรัฐอเมริกาเดือนหน้านี้)
2. ใช้ตามหลังคำเหล่านี้ had better, would rather, would sooner, rather than, but, and, or, except
I’d sooner stay at home because I am not feeling very well today.
ฉันอยากจะอยู่บ้านมากว่าเพราะวันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย
3. ใช้ตามหลังคำเหล่านี้ please, help, let, make, see, hear, feel, watch, notice
This book helps me pass an exam.
(หนังสืเล่มนี้ช่วยฉับให้สอบผ่าน)